tdri logo

Notice: Undefined offset: 0 in /home/uatcenter/domains/uatcenter.com/public_html/tdri/wp-content/themes/twentytwentyfour-child/functions.php on line 229

Notice: Trying to get property 'term_id' of non-object in /home/uatcenter/domains/uatcenter.com/public_html/tdri/wp-content/themes/twentytwentyfour-child/functions.php on line 241
28 ก.พ. 2013
Read in Minutes

Views

อาเซียนนัด 6 ชาติกลุ่ม RCEP เร่งเจรจาเปิดเสรีการค้า-ลงทุน

ไทยผนึกสมาชิกอาเซียนนัด 6 ชาติคู่ค้าเจรจาเปิดเสรี RCEP เร่งลดภาษีสินค้า ขจัดอุปสรรคการค้า-ลงทุน ที่บาหลี 26-28 เดือนนี้

นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2556 ที่บาหลี อินโดนีเซีย จะมีการประชุมร่วมระหว่างสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะเจรจาการค้าเสรีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในภูมิภาค หรือ RCEP Trade Negotiating Committee เพื่อเป็นกลไกหลักในการเจรจาความตกลงฯ รวมถึงการสรุปกรอบและแนวทางการเจรจาทั้งด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน

ทั้งนี้ RCEP จะเป็นความตกลงยุคใหม่ของอาเซียนที่จะพัฒนาต่อยอดจากความตกลงการค้าเสรีที่อาเซียนมีอยู่แล้ว 5 ฉบับกับ 6 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลี อาเซียน-อินเดีย และอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ โดย RCEP จะเป็นความตกลงแบบครอบคุมทุกด้าน ประกอบไปด้วยความร่วมมือทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค และจะครอบคลุมทุกมิติในด้านการเข้าถึงตลาด

“อาเซียนตั้งเป้าลดภาษีระหว่างกันให้ได้มากที่สุด รวมถึงการลดอุปสรรคทางการค้า การลงทุนและการบริการ โดยจะเปิดกว้างผนวกประเด็นใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศในปัจจุบัน อาทิ นโยบายการแข่งขัน และทรัพย์สินทางปัญญา” นางพิรมลกล่าวและว่า

ความตกลง RCEP เป็นข้อตกลงที่สำคัญที่จะมีบทบาทต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียและของโลก และจะเกิดผลประโยชน์กับไทยและอาเซียนอย่างมาก เนื่องจากตลาดจะใหญ่มากขึ้น เพราะจะมีประชากรรวมกันกว่า 3,300 ล้านคนหรือคิดเป็น 49.3% ของประชากรทั้งโลก และจะมี GPD รวมกันกว่า 17,100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 27% ของ GDP โลก ซึ่งประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ถือว่า เป็นทั้งคู่เจรจา คู่ค้าและตลาดส่งออกที่สำคัญของอาเซียน

นางพรพิมล กล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทย RCEP จะเป็นก้าวสำคัญของยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศตามนโยบายของรัฐบาลในการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนของประเทศ และจะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการรักษา การขยายโอกาส และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่สำคัญ

อย่างไรก็ตามการเจรจาระหว่างผู้นำอาเซียนกับ RCEP ได้เริ่มเป็นครั้งแรกในคราวประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 21 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งในครั้งนั้นได้มีการตั้งเป้าหมายการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 ซึ่งเป็นปีเดียวกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และที่ผ่านมาระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจอาเซียน

สำหรับความตกลง RCEP มีผลการศึกษาที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ร่วมกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ พบว่า การจัดทำข้อตกลง RCEP จะทำให้จีดีพีไทยเพิ่มขึ้น 4.03% โดยสินค้าที่จะได้รับประโยชน์ทางด้านส่งออกเพิ่มมากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้แปรรูป อาหารแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประกอบยานพาหนะ ยางพารา และพลาสติก เป็นต้น


ตีพิมพ์ครั้งแรก: เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม พ.ศ. 2556 ในชื่อ อาเซียนนัด 6 ชาติกลุ่มRCEP เร่งเจรจาเปิดเสรีการค้า-ลงทุน

นักวิจัย

แชร์บทความนี้

เรื่องที่คุณอาจสนใจ